เมื่อนานมากๆมาแล้ว เป็นวันที่เครียด ท้อแท้ สิ้นหวัง จากทุกๆสิ่งรอบข้างในชีวิต ผมก็แค่หยิบเบ็ดมาชุดนึง สพายขึ้นบ่าแล้วขี่รถเครื่องคู่กายออกไปจากบ้านโดยยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปชายฝั่งทะเลไหน ขับไปเรื่อยๆ ตามความเคยชินในเส้นทางที่ใช้อยู่เป็นประจำ
จากเขต จ.นครศรีธรรมราช มุ่งไปทาง อ.ลำทับ จ.กระบี่ ถึงลำทับ จอดเติมน้ำมันสักหน่อย ผมสั่งเติมเต็มถังแบบไม่ได้สนใจสิ่งแวดล้อมรอบตัว และยืนรออยุ่ข้างรถฮอนด้าเวฟ100 สีเทาดำของผม "80บาทคะ" เสียงเด็กปั้มรายงานเมื่อเติมเสร็จ "ทำไมวันนี้ดูหงอยๆจัง" เสียงเธอผู้ทำหน้าที่เติมน้ำมันให้ผม ถามขึ้น ผมจึงได้เงยหน้าขึ้นมอง และเพิ่งนึกได้ว่า ออ...ที่นี่แวะเติมน้ำมันอยู่เป็นประจำ พูดคุยกันสองสามคำ ผมก้อเดินทางต่อ ใจก้อคิดว่า "นี่หน้าตากูมองออกถึงความรู้สึกได้ขนาดนั้นเลยเหอ"
มาอีกสอง กม.ถึงหน้าตลาดลำทับผมก็จอดอีกทีที่ข้างทางเท้าซึ่งมีผู้คนเดินสวนทางกันขวักใขว่ไปมาไม่ขาดสาย ผมเดินข้ามถนนเพื่อเข้าตลาดสดซึ่งอยุ่อีกฝังของถนน โดยไม่ปลดคันเบ็ดคุ่ใจออกจากบ่าที่สพาย เดินเรื่อยเฉื่อยเข้าในตลาดโดยไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรหรือไม่ เสียงแม่ค้าเรียกขายขนมขายผลไม้กันเสียงเจื้อยแจ้ว ไม่อยากกินอะไรเลย แต่ก้อนึกขึ้นได้ว่า เดี๋ยวก็ต้องหิว ซื้อของกินไปบ้างดีกว่า "ขนมสดๆใหม่ๆทุกอย่างค่า ชิมก่อนได้นะคะพี่" ผมหันมองไปที่เสียงนั้น แล้วก้อรู้สึกว่าโลกมันจะเริ่มสว่างไสวขึ้นในบัดดล แม่ค้าคนนี้ ทำไมสวยได้ขนาดนี้ ผมตลึงมองดวงตากลม ๆนั้น อย่างลืมตัวไปสักสองวินาทีได้ "พี่เลือกดูก่อนได้ค่า อร่อยทุกอย่างคะพี่" ทำไมผมรุ้สึกอยากยืนอยู่ตรงนี้ไม่ต้องไปไหน สมองก็คิดสับสนวุ่นวาย มีผัวมั้ยนะ และอะไรต่อไรอีกมากมาย รวมถึงแบบทะลึ่งๆด้วย ผมเริ่มรู้สึกมีความสุขในใจขึ้นมาได้บ้าง อยากขอเบอร์แม่ค้าคนสวยก็ไม่กล้า คิดแค่ว่าขากลับต้องมาแวะอีกที ผมหิ้วถุงขนมสดที่ซื้อมาจากแม่ค้าคนสวยด้วยเงิน 55 บาทเดินข้ามถนนมาที่รถเวฟของผม ตอนนี้ผมนึกได้แล้วว่าจะไปตกปลาที่ไหน พักเรื่องใว้ก่อนครับ
แค่อยากบอกว่า "จุดหมายปลายทางไม่ใช่สิ่งเดียวที่สำคัญ" ระหว่างทางก้อยังมีหลายสิ่งที่ให้เราได้ชื่นชม ไม่ทางกายก้อทางใจ หมานๆทุกท่านครับที่กำลังตกปลาอยู่ และที่กำลังวางแผนจะไปตก