ในช่วงที่กระแสไม้มงคลกำลังมาแรงหลายท่านอาจจะนึกถึงไม้ต้นหนึ่งที่เคยโด่งดังมาเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงนั้นกระแสมาแรงมาก ทุกบ้านต้องเสาะแสวงหามาปลูก และเป็นไม้ที่มีราคาแพงมากในช่วงนั้นหากเทียบกับค่าเงินในปัจจุบัน บางต้นอาจมีมูลค่าถึงหลักล้านบาทเลยทีเดียว แต่ในช่วงนั้นมีการซื้อขายกันในราคาหลักแสนก็ถือว่าเป็นราคาที่สูงมากเลยทีเดียว ซึ่งไม้ตัวนั้นก็คือ โป๊ยเซียน นั่นเอง เรามาทำความรู้จักของเจ้าไม้ต้นนี้กันดีกว่าครับ
โป๊ยเซียน (ชื่อวิทยาศาสตร์: Euphorbia milli) เป็นหนึ่งในไม้มงคล จัดอยู่ในวงศ์ Euphorbiaceae อยู่ในสกุล Euphorbia ซึ่งเป็นสกุลเดียวกับพืชหลายชนิด เช่น ต้นคริสต์มาส และส้มเช้า
โป๊ยเซียน (八仙) มาจากภาษาจีน แปลว่าเทพยดาทั้ง 8 องค์ ได้แก่ เซียนทิก๋วยลี้ เซียนฮั่นจงหลี เซียนลือท่งปิน เซียนเจียงกั๋วเล้า เซียนหลันไฉ่เหอ เซียนฮ่อเซียนโกว เซียนหันเซียงจือ เซียนเชาก๊กกู๋ เชื่อกันว่า ถ้าบ้านใดมีดอกโป๊ยเซียนครบ 8 ดอก จะนำความโชคดีมาให้แก่บ้านของผู้นั้น
- สาเหตุที่ได้ชื่อว่าโป๊ยเซียนนั้น ผู้เขียนเชื่อว่าน่าจะมาจากต้นโป๊ยเซียนดั้งเดิมซึ่งยังมีดอกขนาดเล็ก จะมีดอกภายใน 1 ช่อ 4-8 ดอก ซึ่งต้นที่สมบูรณ์จะออกดอก 8 ดอกต่อช่อก็เลยตั้งชื่อว่าโป๊ยเซียน และถือว่าผู้ปลูกจะโชคดีหากโป๊ยเซียนออกดอกครบ 8 ดอกใน 1 ช่อ แต่ในปัจจุบันนั้นได้มีการพัฒนาสายพันธุ์โป๊ยเซียนให้มีดอกขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าบางสายพันธุ์อาจมีดอกใหญ่ 6-8 ซม.เลยทีเดียว และใน 1 ช่อก็จะมีดอกตั้งแต่ 8-64 ดอกบางสายพันธุ์ดอกบานทนมากสามารถอยู่บนต้นได้หลายเดือน จึงเป็นที่นิยมกันมาก ยิ่งมีการผสมสีออกมาได้มากมายหลายสี และบางสายพันธุ์ก็มีหลายสีในดอกเดียวกัน ก็ยิ่งทำให้โป๊ยเซียนยิ่งได้รับความนิยมสูงมากยิ่งขึ้นในช่วงนั้น และก็ยังมีการจัดงานประกวดกันอย่างต่อเนื่องทำให้มีคนรู้จักและนิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย แม้จะมีราคาแพงก็ยังมีคนต้องการซื้อหามาปลูกกันเป็นจำนวนมาก
โป๊ยเซียนชื่อ กุหลาบเขลางค์
- แต่ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ เมื่อมีการขึ้นไปสู่ที่สูงสุดแล้วก็มักจะตกลงสู่ที่ต่ำเช่นเดิม ซึ่งโป๊ยเซียนก็เช่นกัน เมื่อทุกบ้านมีกันหมดแล้วกระแสความต้องการก็ลดลงและลดลงอย่างรวดเร็ว เหมือนกับเวลาเราโยนลูกบอลขึ้นบนท้องฟ้า เวลาโยนขึ้นมันจะไม่เร็วมากนักแต่เวลามันตกลงมามัจะตกลงมาอย่างรวดเร็ว ในช่วงที่กระแสโป๊ยเซียนตกสวนโป๊ยเซียนที่เตรียมตัวรองรับสถานการณ์ก็สามารถอยู่ได้สบายเนื่องจากได้มีการหาตลาดส่งออกต่างประเทศทางด้านยุโรปไว้รองรับ ซึ่งทางด้านนั้นเขาปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับเมื่อออกดอกแล้วต้นโทรมตายลงเขาก็จะหามาปลูกทดแทน จึงสามารถส่งออกไปขายได้เรื่อย ๆถึงแม้จะได้ราคาไม่แพงแต่อาศัยสวนขนาดใหญ่มีกำลังผลิตสูงก็สามารถอยู่ได้สบาย แต่สวนไหนที่เตรียมตัวไม่ทันก็ต้องปิดตัวลงหรือหาไม้ตัวอื่นมาทำต่อไป
- เป็นสัจจะธรรมของโลกว่าทุก ๆอย่างมีขึ้นมีลงไม่แน่นอน ตอนนี้เราจะพบเห็นโป๊ยเซียนตามบ้านเรือนต่าง ๆน้อยลง เนื่องจากกระแสที่มันซามานานทำให้ไม่ค่อยมีคนสนใจจึงปล่อยทิ้งปล่อยขว้างไม่ดูแล ทำให้ตายไป แต่ก็ยังมีหลายสายพันธุ์ที่เป็นสายพันธุ์ที่มีความแข็งแรง เช่น กุหลาบเขลางค์ ก็จะยังพบเห็นได้แต่ก็น้อยเต็มที เมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่แน่ว่าอีกไม่นานกระแสความนิยมอาจจะกลับมาอีกครั้งและจะมีการเสาะแสวงหามาปลูกกันอีกและก็จะถูกปั่นกระแสให้สูงขึ้นอีกเช่นเดิม ดังนั้นในช่วงนี้ใครจะปลูกไว้เพื่อรองรับกระแสที่จะเริ่มกลับมาก็ลองปลูกกันไว้ครับ
เนื่องจากโป๊ยเซียนเป็นพืชมงคล ผู้ปลูกจึงควรดูแลรักษามากเป็นพิเศษเพราะมันมีคุณค่าทางจิตใจ ผู้ปลูกจึงควรปลูกในสภาพแวดล้อมที่ดี และควรจะมีการดูแลรักษาที่ดีด้วย
โรงเรือนโป๊ยเซียน
ดินที่นำมาปลูก ควรเป็นดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี ไม่เช่นนั้นรากโป๊ยเซียนอาจเน่าได้ ที่สำคัญควรเปลี่ยนดินทุก ๆ ปี และควรใช้กาบมะพร้าวสับ หรืออิฐมอญทุบเป็นก้อนเล็ก ๆรองก้นกระถางประมาณ 1 ใน 4 ของกระถาง ดินที่เหมาะในการปลูกโป๊ยเซียนคือดินที่อยู่ตามใต้ต้นไม้ที่มีใบไม้ผุปะปนอยู่ โดยเฉพาะต้นก้ามปู จะดีมาก
แสงแดด โป๊ยเซียนเป็นพืชที่ชอบแดด จึงควรให้โป๊ยเซียนได้รับแสงแดดที่เพียงพอ ถ้ามากไปดอกจะเล็ก แต่ถ้าน้อยไปดอกจะโต ต้นจะไม่แข็งแรง ดังนั้นจึงควรใช้สแลนพรางแสงให้ด้วยเพื่อไม่ให้ได้รับแสงมากเกินไป โดยใช้สแลนพรางให้แสงผ่านได้ประมาณ 70 % จะทำให้ดอกโป๊ยเซียนมีขนาดใหญ่และบานทน
น้ำ โป๊ยเซียนทนต่อสภาพแล้งได้ดีพอสมควร จึงไม่จำเป็นต้องให้น้ำทุกวัน ถ้าโป๊ยเซียนอยู่ในช่วงออกดอก ไม่ควรรดน้ำที่ดอกเพราะจะทำให้ดอกเน่าและร่วงเร็ว และหากรดน้ำมากเกินไป จะทำให้โป๊ยเซียนเป็นโรครากเน่า และเกิดเชื้อราขึ้นในดินที่ใช้ปลูก
ปุ๋ย สามารถใส่ได้ทั้งปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ โดยปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอกหรือ ปุ๋ยหมักจะทำให้ดินร่วนซุย ควรให้ปุ๋ยแก่โป๊ยเซียนเดือนละ 1-2 ครั้ง แต่ในหน้าฝนควรงดปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ทุกชนิด เพราะจะเป็นสาเหตุของเชื้อราทำให้ต้นโป๊ยเซียนตายได้
การตัดแต่งกิ่ง โป๊ยเซียนบางพันธุ์อาจแตกกิ่งออกมามาก ทำให้ใบอาจจะไปปิดบังแสง แล้วทำให้อากาศไม่ถ่ายเท จึงควรมีการตัดแต่งกิ่งทั้งเพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก และเพื่อความสวยงาม นอกจากนี้กิ่งที่ตัดออกมายังสามารถนำไปขยายพันธุ์ต่อได้อีกด้วย
การขยายพันธุ์โป๊ยเซียน โป๊ยเซียนสามารถขยายพันธุ์ได้หลายวิธี เช่น
การปักชำกิ่งโป๊ยเซียน
- การปักชำ โดยการตัดกิ่งที่ไม่แก่และอ่อนเกินไปยาวประมาณ 10 ซม. มาตัดใบส่วนล่างออกเป็นบางส่วนแช่ในน้ำยาเร่งรากแล้วผึ่งไว้ให้แห้ง รอให้กิ่งที่จะชำมีอาการเฉาใบเริ่มเหี่ยวจึงเอาลงชำในกระถางเล็ก ๆโดยใส่ดินที่มีความชื้นเล็กน้อยลงไปให้เต็มกดดินรอบ ๆกิ่งให้แน่น นำถุงพลาสติกใสมาสวมแล้วมัดติดกับกระถางไว้เพื่อกันความชื้นออก ทิ้งไว้ในที่แดดร่มรำไร หรือสแลนพรางแสง 50 % ประมาณ 20 วัน จะเกิดรากโดยสังเกตจากใบเริ่มสดและตั้งขึ้นและเริ่มจะมีการแทงยอดออกมาตรงปลายกิ่งก็ให้นำออกจากถุงทิ้งไว้ที่เดิมประมาร 3-5 วันเพื่อให้ปรับตัวแล้วจึงย้ายลงกระถางที่ใหญ่ขึ้น ใส่ปุ๋ยละลายช้าสูตร 14-14-14 ประมาณ 3-5 เม็ดต่อกระถาง ช่วงนี้ให้งดปุ๋ยคอกโดยเด็ดขาด จนกว่าต้นไม้จะมีการแตกยอดเต็มที่และแข็งแรงดีแล้วจึงเพิ่มปุ๋ยละลายช้าเป็น 1 ช้อนชาต่อต้น สำหรับปุ๋ยละลายช้าสามารถอยู่ได้และปลดปล่อยธาตุอาหารให้ต้นไม้ได้ 3-6 เดือน แล้วแต่สูตรปุ๋ย ในช่วงนี้จึงไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยอะไรเพิ่มแค่คอยดูแลรดน้ำวันละครั้งหรือ 2 วันครั้งและเก็บใบที่แห้งทิ้งเพื่อไม่ให้เกิดเชื้อราก็เพียงพอ
- การสียบกิ่ง เสียบยอด โป๊ยเซียนสามารถขยายพันธุ์ได้โดยวิธีเสียบกิ่งหรือเสียบยอดได้ด้วยการนำต้นตอพันธุ์ดั้งเดิมที่มีความแข็งแรงมาตัดชำทิ้งไว้ เช่น พันธุ์แดงอุดม ซึ่งเป็นพันธุ์ที่มีความแข็งแรงทนต่อโรค หาอาหารเก่ง โตเร็ว แต่ดอกมีขนาดเล็ก วิธีการเสียบ
โป๊ยเซียนพื้นเมืองชื่อ แดงอุดม
การเสียบยอดโป๊ยเซียน
ยอดก็มีหลายวิธี เช่นการเสียบแบบลิ่ม เสียบแบบนั่งแท่น และการเสียบตา เป็นต้น นอกจากจะใช้โป๊ยเซียนพื้นเมืองเป็นต้นตอแล้วยังสามารถใช้ต้นส้มเช้า เป็นต้นตอได้อีกด้วย การเสียบกิ่งนั้นจะไม่ใช้เทปพันกิ่งแบบไม้ชนิดอื่น แต่จะใช้เชือกเว้นเล็ก ๆเช่นเชือกฟางฉีกเป็นเส้นเล็ก ๆแล้วตรึงหนามของต้นตอและกิ่งพันธุ์ดีเข้าด้วยกันเพื่อให้แผลแนบสนิท หากต้นตอมีขนาดใหญ่กว่ากิ่งพันธุ์ หรือกิ่งพันธุ์มีขนาดใหญ่กว่าต้นตอก็ให้เปลือกด้านใดด้านหนึ่งของกิ่งพันธุ์และต้นตอแนบสนิทเสมอกัน ดึงเชือกให้กิ่งพันธุ์และต้นตอแนบสนิทที่สุดแน่นที่สุด เสร็จแล้วนำถุงพลาสติกครอบไว้กันกิ่งพันธุ์คายน้ำทิ้งไว้ในที่ร่มประมาณ 30 วัน เนื้อเยื่อจะประสานกันสนิทก็นำชือกที่ผูกถุงพลาสติกออก อีก 1 วันจึงดึงถุงพลาสติกที่คลุมออกนำไปวางไว้ใต้สแลน 50 % หรือในที่แดดร่มรำไรประมาณ 7 วันก็สามารถเปลี่ยนกระถางได้ การดูแลก็เช่นเดียกับกิ่งชำ
เมล็ดโป๊ยเซียน
ต้นอ่อนโป๊ยเซียนที่เกิดจากการเพาะเมล็ด
- การเพาะเมล็ด การขยายพันธุ์โป๊ยเซียนวิธีนี้ทำให้เกิดโป๊ยเซียนพันธุ์ใหม่ ๆขึ้นมากมายเลยทีเดียว สำหรับการขยายพันธุ์โดยวิธีนี้นั้นเราใช้วิธีเก็บเมล็ดที่เริ่มแก่ซึ่งจะมีสีน้ำตาลอยู่ตรงกลางของดอกมาตากให้แห้งแล้วนำไปเพาะในดินสำหรับเพาะชำได้เลยแต่ต้องรีบนำไปเพาะหลังเมล็ดแห้งทันทีเพราะหากปล่อยทิ้งไว้นานความงอกจะลดลงอย่างรวดเร็ววิธีนี้โอกาสที่จะได้ลูกที่ผสมจากต้นเดียวกันซึ่งจะมีลักษณะด้อยลงสูงเพราะโป๊ยเซียนสามารถผสมในดอกเดียวกันได้เพราะเกสรตัวผู้และตัวเมีจะบานเกือบจะพร้อม ๆกัน อีกวิธีหนึ่งคือการเก็บเมล็ดที่ตั้งใจผสมจากต้นแม่พันธุ์ โดยการนำต้นที่จะเป็นแม่พันธุ์ซึ่งควรเป็นพันธุ์ที่มีลักษณะดีและติดเมล็ดง่าย นำมาวางไว้แล้วใช้ต้นพ่อพันธุ์ที่จะผสมมาวางล้อมไว้ วิธีนี้ก็จะเพิ่มโอกาสได้พันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้น วิธีที่จะทำให้ได้พันธุ์ใหม่ที่แน่นอน
ที่สุดคือการผสมด้วยมือโดยการเก็บเกสรตัวผู้จากต้นพันธุ์ดีอื่นมาผสมกับต้นแม่โดยตรง โดยให้นำถุงตาข่ายกันแมลงมาห่อดอกเอาไว้ก่อนดอกบานและเมื่อดอกบานให้เอาพู่กันอ่อน ๆแตะเกสรตัวผู้ที่เก็บไว้มาป้ายที่เกสรตัวเมียที่อยู่กลางดอก และทำลายเกสรตัวผู้ในช่อดอกนั้นทิ้ง แล้วห่อช่อดอกไว้อีก 1-2 วันเพื่อป้องกันแมลงมาผสมซ้ำ จากนั้นหากผสมติดจะเกิดเมล็ดตรงกลางดอก รอให้แก่แล้วจึงนำไปเพาะให้งอก หลังจากงอกจนเกิดใบประมาณ 3-4 ใบก็ให้แยกต้นที่มีลักษณะดี เช่น ใบใหญ่ตั้ง ลำต้นใหญ่ หนามเป็นระเบียบ ออกมาปลูกแยกไว้ต่างหาก ส่วนที่เหลือก็รอดูไปอีกระยะ ประมาณ 3-6 เดือนก็จะเริ่มออกดอก หากดอกมีลักษณะดีก็ให้แยกออกมาเลี้ยงดูต่อไป ถ้าต้นไหนดอกไม่ดีก็ถอนทิ้งหรือเอาไปทำต้นตอ ส่วนต้นลักษณะดีที่แยกออกมาก่อนก็มาคัดเลือกอีกครั้งว่าดอกโตหรือดกหรือไม่ ออกดอกง่ายหรือไม่ หากใบสวยแต่ออกดอกยากก็ไม่ควรเก็บไว้
ลักษณะของต้นโป๊ยเซียนที่ดีที่ควรคัดเลือกไว้
ดวงนฤมล โป๊ยเซียนที่มีลักษณะใบตั้งสวยงาม
1. ใบมีลักษณะแข็งแรงกว้าง หนา ไม่ยาวจนเกินไป ใบตั้งกับลำต้นประมาณ 45 องศา หรือไม่ห้อยตกลงพื้น และไม่หลุดร่วงง่าย
2. ลำต้นมีขนาดใหญ่สมดุลกับใบ หนามใหญ่และไม่ยาวเกินไป ไม่มีหนามมากเกินไป
โป๊ยเซียนที่มีลักษณะดอกที่ใหญ่
ตัวอย่างโป๊ยเซียนที่มีลักษณะดอกที่ดี
3. ดอก ต้องมีขนาดใหญ่หากมี 4 ดอก เส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 4-6 ซม. หากมี 8 ดอก ควรมีขนาด 3.5-5 ซม.ขึ้นไป หากมี 16-64 ดอกก็ควรมีขนาดไม่ต่ำกว่า 3-4.5 ซม.ขึ้นไป ก้านดอกจะต้องมีขนาดใหญ่ไม่สั้นหรือยาวจนเกินไปที่เหมาะสมคือต้องส่งช่อดอกออกมาเสมอกับปลายใบหรือเลยออกมาเล็กน้อย ก้านดอกแข็งรับน้ำหนักดอกได้ไม่ห้อยลงพื้น ดอกบานทนอย่างน้อยควรอยู่บนต้นได้ 1 เดือนขึ้นไปเพราะหากดอกเฉาง่ายจะเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดเชื้อราจากดอกที่แห้งและร่วงหล่นอยู่ที่ซอกก้านใบ ดอกมีสีสันชัดเจน หรือมีหลายสีในหนึ่งดอก ลักษณะการออกดอกต้องเป็นระเบียบ เช่น เรียงกันเป็นแผงหรือเป็นก้อน ครับก็เป็นเกล็ดความรู้เล็ก ๆน้อย ๆที่รวบรวมมา นำมารวมกับประสบการณ์ของผู้เขียนซึ่งเคยปลูกเลี้ยงโป๊ยเซียนและเคยส่งโป๊ยเซียนเข้าประกวดจนได้รับรางวัลมาพอสมควร ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่านบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ ขอให้มีความสุขกับการปลูกต้นไม้สวย ๆนะครับ สวัสดีครับ