สวัสดีครับท่านผู้อ่าน ช่วงนี้กระแสของไม้ด่างในประเทศไทยมาแรงมาก ไม่ว่าจะเป็นกล้วยด่าง บอนสี หรือแม้กระทั่ง พืชตระกูลอะโกลนีม่า สายพันธุ์ต่าง ๆ ที่เริ่มมีราคาสูงขึ้นมา อย่างบอนสี ตอนนี้ราคาก็ขยับขึ้นไปสูงมาก ๆ วันนี้เราจะพูดถึงบอนสีกันก่อนนะครับ บอนสี หรือ บอนฝรั่ง (Fancy Leaf Caladium) เป็นไม้ประดับจัดอยู่ในสกุล Caladium วงศ์ Araceae มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Caladium Bicolor มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกาใต้ ยุโรป อินเดีย และอินโดนีเซีย
สันนิษฐานว่ามีการนำเข้ามาปลูกในสมัยสุโขทัยและสมัยรัตนโกสินทร์ ช่วงรัชกาลที่ 5 บอนสีมีลักษณะทั่วไปคือ เป็นไม้ประดับล้มลุกอวบน้ำ มีหัวอยู่ใต้ดินไว้เก็บสะสมอาหาร แตกใบเป็นกอ มีก้านใบสูงยาวเหนือพื้นดิน ใบใหญ่แผ่กว้าง รูปทรงและสีสันของใบมีหลายแบบขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ อาทิ ใบรูปหัวใจ ใบทรงกลม ใบหอก และอื่น ๆ แถมแต่ละชนิดก็มีสีสันและลวดลายที่โดดเด่นและสวยงามแตกต่างกันไป ด้วยเหตุนี้เลยทำให้บอนสีได้รับการขนานนามว่าเป็นราชินีแห่งไม้ประดับ หรือ Queen of The Tears Plant อีกทั้งยังมีดอกลักษณะคล้ายดอกหน้าวัว มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ บอนสีนั้นจะมีลักษณะของใบที่แตกต่างกันแต่ละสายพันธุ์ บางพันธุ์อาจมีสีแดงเส้นใบเขียว หรือสีเขียวเส้นใบแดง บางชนิดมีสีชมู สีขาว หรือสีอื่น ๆ ซึ่งบางพันธุ์ก็เกิดจากการกลายพันธุ์ตามธรรมชาติ บางพันธุ์ก็เกิดจากการผสมข้ามพันธุ์โดยมนุษย์ ซึ่งก็ทำให้มีลักษณะแตกต่างแยกย่อยกันออกไปอย่างมากมาย แต่ที่เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งก็คือ มันเป็นไม้ประดับที่นิยมปลูกกันทั่วไป กระแสนิยมบอนสี นั้นมีขึ้นมีลงตามความนิยมเล่นของนักเล่นไม้ประดับเป็นช่วง ๆบ่างช่วงราคาสูงมากจนแทบเอื้อมไม่ถึง แต่บางช่วงก็ตกลงมาจนแทบจะแจกฟรีกันเลยทีเดียว
สาเหตุที่บอนสีได้รับความนิยมและมีราคาสูง
ตามปกตินั้นการปลูกไม้ประดับเพื่อตกแต่งสวนหรือสนามหน้าบ้านนั้น ส่วนมากจะเลือกไม้ที่มีรูปทรงสวยงาม เช่นใบสวย มีรูปร่างแปลกตา สีสันสวยงาม เพื่อนำมาประดับสวนหรือบริเวณบ้านให้ดูโดดเด่น ซึ่งบอนสีก็เป็นหนึ่งในไม้ประดับเหล่านั้น แต่สิ่งที่ทำให้บอนสีมีราคาแพงขึ้นเป็นช่วง ๆ ก้มาจากการปั่นราคาของพ่อค้าหัวใส ที่นำเอาเจ้าบอนสี ไม้ประดับธรรมดา มาตั้งชื่อให้ฟังดูดีและเคลมว่าเป็นไม้มงคล ซึ่งจริง ๆแล้วมันไม่ได้ เป็นเช่นนั้น บอนสีไม่ใช่ไม้มงคลอย่างที่เราเข้าใจ และนอกจากมันจะไม่ใช่ไม้มงคลแล้วมันยังเป็นพืชที่มีพิษต่อร่างกายมนุษย์และสัตว์อีกด้วย ซึ่งสารตัวนั้นก็คือ แคลเซี่ยมออกซาเลต (calcium oxalate) และ sapotoxin ซึ่งหากสัมผัสถูกร่างกายหรือเผลอกินเข้าไปก็จะเป็นอันตรายได้โดยจะมีอาการ ไหม้ที่เพดานปาก ลิ้นและคอ กล่องเสียงอาจบวม การเปล่งเสียงจะผิดปกติ และมีอาการคัน อาจอาเจียนด้วย ถ้ายางเข้าตา ตาจะอักเสบระคายเคือง
กระแสการปั่นให้ไม้ประดับแต่ละชนิดมีราคาแพงนั้นมีมานานแล้วครับ ตั้งแต่ โกศล บอสี(เคยปั่นมาแล้ว) โป๊ยเซียน ฯลฯ ซึ่งคนที่รวยก็คือคนที่ปั่นราคาและเตรียมไม้ประดับเหล่านี้ไว้เยอะ ๆ อาจจะเตรียมปลูกไว้เป็นสิบเป็นร้อยไร่เลยทีเดียว วิธีการปั่นของเขานั้นก็จะเริ่มด้วยการเสาะแสวงหาไม้ประดับที่จะปั่นโดยการรับซื้อในราคาที่สูงมาก โดยอ้างว่าจะนำไปปลูกเลี้ยงเพื่อเป็นศิริมงคล และมีการประโคมข่าวตามสื่อต่าง ๆในเรื่องของความสวยงาม และความเป็นมงคลด้านต่าง ๆ ซึ่งการซื้อขายอาจเป็นการซื้อขายโดยพ่อค้าไม้ประดับด้วยกันเพื่อโปรโมทไม้ตัวนั้น หลังจากนั้นก็จะมีการนำภาพไม้ประดับชนิดนั้นลงตามสื่อต่าง ๆเพื่อให้ผ่านสายตาผู้คน ให้บ่อยที่สุด เพื่อทำให้ไม้ประดับธรรมดาที่ไม่ค่อยมีคนสนใจ กลายเป็นไม้ประดับที่ดูสวยงาม มีค่ามีราคาขึ้นมา ผู้คนก็จะเสาะแสวงหา เพื่อนำไปปลูกประดับบ้านประดับสวน และหลายคนที่คิดอยากจะรวยเพราะไม้ประดับตัวนี้บ้างก็จะลงทุนซื้อมาปลูกเพื่อทำเป็นการค้าบ้าง แต่หารู้ไม่ว่า สินค้าตัวใดก็แล้วแต่ หากมันมีจำนวนมากเกินความต้องการของตลาดมันก้จะถูกลง และอาจถูกลงจนแทบไม่มีราคาเลยทีเดียว เหมือนกับที่บอนสีและโป๊ยเซียน เคยประสบปัญหานี้มาแล้ว คนที่คิดจะซื้อมาปลูกเพื่อการค้าในช่วงที่ราคากำลังสูงอาจจะต้องลงทุนเป็นจำนวนมาก ตรงข้ามกับคนที่ปั่นราคา ที่เตรียมพร้อมจะนำออกจำหน่ายแล้ว เมื่อปั่นได้ที่ ต้นไม้มีราคาสูงตามต้องการแล้วเขาก็จะเริ่มปล่อยไม้ที่เขาเตรียมไว้ออกสู่ตลาด แน่นอนว่าเขาอาจจะจำหน่ายในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดเกินครึ่ง เพื่อระบายของให้หมด ซึ่งแน่นอนก็จะต้องมีคนที่แห่ไปซื้อของถูกกันอย่างล้นหลาม เขาก็จะฟันกำไรอย่างมหาศาล จากนั้นต้นไม้ประเภทนี้ก้จะเต็มตลาด เต็มบ้านทุกบ้าน นำไปขายต่อก็ไม่มีใครซื้อ เพราะทุกคนมีหมดแล้ว ที่ีสำคัญ บอนสี เป็นไม้ที่ขยายพันธุ์ได้ง่ายมาก จากไม้ประดับราคาแพงที่เคยปลูกกันอย่างละต้นสองต้น มันก็จะขยายพันธุ์จนเต็มบ้านเต็มสวน ส่วนคนที่คิดปลูกเพื่อการค้าภายหลัง กว่าจะทำออกมาทันขาย ต้นไม้ราคาแพงที่ซื้อมาปลูกก็ราคาตกจนขายไม่ออกแล้ว มาถึงตรงนี้ก็คงจะรู้นะครับ ว่าจะได้กำไรหรือขาดทุน ตัวอย่างที่มีให้เห็นมาแล้วในช่วงโป๊ยเซียนฟีเวอร์ ช่วงนั้นโป๊ยเซียนมาแรงมาก ใคร ๆก็เสาะแสวงหามาปลูก และมีการผสมพันธุ์ออกมาเรื่อย ๆให้ดอกสวยและใหญ่ขึ้น เคยมีการซื้อขายลูกไม้ใหม่กันกิ่งละเป็นหมื่นเป็นแสน หลังเอามาขายพันธุ์ต่อก็ยังซื้อขายกันเป็นหลักพัน หลักหลายร้อยต่อกิ่ง แต่เมื่อทุกบ้านมีโป๊ยเซียนกันหมดแล้วก็ถึงคราวขายไม่ออก ทำให้ราคาตกลงมาเป็นกิ่งละ 50 บาท 30 บาท และ 20 บาท ก็เพราะคนไทยเรานิยม ปลูกต้นไม้ดอกไม้ประดับให้เป็นไม้มงคล ก็เลยทำให้มีการปั่นราคาได้ง่าย ช่วงหลังมาโป๊ยเซียนได้นำกลับมาขายในรูปแบบไม้ดอกไม้ประดับ จึงทำให้ราคากลับมาทรงตัวอยู่ที่หลักร้อย และก็ไม่แน่ว่าจะมีการปั่นราคาอีกหรือเปล่า เพราะช่วงนี้ก็เริ่มจะไม่เห็นโป๊ยเซียนตามบ้านเรือนต่าง ๆแล้ว เมื่อจำนวนมันลดลงก็อาจเป็นช่องทางให้นักปั่นราคากลับมาทำตลาดอีกก็ได้ เพราะคนไทยเรามีชื่อเรื่องของความเชื่อเรื่องโชคลางอยู่แล้ว สุดท้ายนี้ก็ต้องขออภัยนะครับถ้าหากบทความนี้ไปกระทบกับใครเข้า แต่ถ้ามีประโยชน์กับท่านที่คิดจะปลูกต้นไม้ประดับบ้านและสวนก็ขอยกอานิสงค์นั้นให้ท่านไปก็แล้วกัน ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับวงการนี้ เพียงแค่เป็นห่วงกลัวท่านผู้อ่านจะเป้นแมงเม่าบินเข้ากองไฟเท่านั้นเองครับ