ครอบฟันสี1ครอบฟันสี มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Abutilon indicum (L.) Sweet จัดอยู่ในวงศ์ชบา (MALVACEAE)

มีชื่อเรียกตามท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ก่อนเข้า (เชียงใหม่), โผงผาง โพะเพะ (นครราชสีมา), ก้นจ้ำ หมากก้นจ้ำ (ปราจีนบุรี), พรมชาติ (ภาคกลางบางพื้นที่), บอบแปบ ปอปแบบ มะก่องเข้า (ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ), ขัดมอนหลวง ครอบตลับ

หญ้าขัดหลวง หญ้าขัดใบป้อม, ขัดมอญ ครอบ ครอบจักรวาฬ ครอบจักรวาล ตอบแตบ (ไทย), บั่วปั่วเช่า, กิมฮวยเช่า (จีน), มะก่องข้าว, มะอุบข้าว, กระติ๊บข้าว, หมอผ่านเฉ่า เป็นต้นหมายเหตุ : จากข้อมูลทั่วไปแล้ว Abutilon indicum (L.) Sweet คือชื่อวิทยาศาสตร์ของต้น "ครอบฟันสี" แต่ในหนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีนที่ใช้บ่อยในประเทศไทยจะแยกต้นครอบฟันสี ต้นครอบตลับ และต้นครอบจักวาลออกจากกัน โดยมีชื่อวิทยาศาสตร์ที่แตกต่างกันออกไป สามารถแบ่งออกได้ดังนี้

  • ครอบตลับ จะใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Abutilon indicum (L.) Sweet ซึ่งชนิดนี้ใบจะมีลักษณะเป็นรูปหัวใจ ส่วนดอกเป็นสีเหลือง (เป็นชนิดที่เรากำลังกล่าวถึงในบทความนี้)
  • ครอบฟันสี จะใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ Abutilon sinense Oliv. (ทั่วไปเรียก "ก่องข้าวดอย") ชนิดนี้บริเวณกิ่งและลำต้นจะมีสีเพียงเล็กน้อย ใบเป็นรูปไข่ค่อนข้างกลม ส่วนดอกมีสีส้มหรือสีแสด ซึ่งต่างจากครอบตลับที่มีดอกสีเหลือง
  • ครอบจักรวาล หรือ ครอบจักรวาฬ จะใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Abutilon persicum (Burm.f.) Merr. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Abutilon polyandrum (Roxb.) Wight & Arn.) (ทั่วไปเรียก "ก่องข้าวหลวง") ซึ่งจะมีลักษณะของต้นคล้ายกับต้นครอบตลับ แต่พันธุ์นี้ขนาดของใบจะใหญ่กว่าและบางกว่าครอบตลับ

โดยทั้งสามชนิดนี้มีจะสรรพคุณทางยาที่คล้ายคลึงกันและสามารถนำมาใช้แทนกันได้

ลักษณะของครอบฟันสี

ครอบฟันสี6

ต้นครอบฟันสี จัดเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นมีความสูงประมาณ 0.5-2.5 เมตร ลำต้นตั้งตรง แตกกิ่งก้านสาขามาก และมีขนสีขาวนวลหรือสีเทาอ่อนนุ่มปกคลุมอยู่ทั่วไป โดยต้นครอบฟันสีนั้นมักเกิดตามดินปนทราย พบได้ทั่วไปตามที่รกร้างริมถนนหนทาง มีเขตการกระจายพันธุ์ในทวีปแอฟริกาและในทวีปเอเชีย เช่น ในประเทศศรีลังกา อินเดีย เวียดนาม ลาว ฯลฯ ส่วนในประเทศไทยจะพบได้มากทางภาคกลางและภาคตะวันออก โดยทั้งต้นจะมีสาร Amino acids, Flavonoid glycoside, Phenols, และน้ำตาล (จำพวก Flavonoid glycoside มี Cyanidin-3-rutinoside, Gossypin, Gossypitrin) ส่วนรากจะมี Asparagin

ครอบฟันสี7ใบครอบฟันสี ใบออกสลับกัน มีลักษณะกลมโต ปลายแหลมสั้น ฐานใบเว้าเป็นรูปคล้ายหัวใจ ส่วนขอบใบเป็นหยักรูปฟัน ขนาดของใบกว้างประมาณ 2.5-7 เซนติเมตรและยาวประมาณ 3-9 เซนติเมตร ใบสีเขียวค่อนข้างหนาและมีขนสีขาวนวลหรือสีเทาขึ้นปกคลุมทั้งสองด้าน และมีก้านใบยาว โดยใบจะมีสาร Organic acid, Mucilage, Tannins, Traces of asparagin และมีเถ้าที่ประกอบไปด้วย Alkaline sulphates, Calcium carbonate, Chlorides และ Magnesium phosphate

ครอบฟันสี2ดอกครอบฟันสี ดอกออกเป็นดอกเดียวจากซอกของก้านใบ ดอกเป็นสีเหลือง มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2-3 เซนติเมตร ก้านดอกยาว ทางใกล้โคนดอกมีรอยเป็นข้อ 1 รอย กลีบเลี้ยงดอกติดกัน เมื่อบานออกจะคล้ายจาน และมีรอยแยกฉีก ๆ แบ่งออกเป็นกลีบ 5 กลีบ ลักษณะของกลีบปลายจะแหลมสั้น ๆ มีสีเขียว มีขนนุ่มสีเทาปกคลุมด้านนอกของกลีบดอกทั้งห้า ดอกมีเกสรตัวผู้จำนวนมากติดกันอยู่ที่โคนเป็นหลอดสั้น ๆ ส่วนรังไข่จะอยู่เหนือส่วนอื่นของดอกทั้งหมด ผนังของรังไข่เป็นกลีบเรียงติดกันรอบ ๆ เป็นรูปทรงกลม

ครอบฟันสี3ผลครอบฟันสี ผลมีลักษณะกลมเป็นกลีบ ๆ เรียงติดกัน ลักษณะคล้ายฟันเฟืองข้าว โดยมีกลีบประมาณ 15-20 กลีบ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 เซนติเมตรและมีความหนาประมาณ 1.5 เซนติเมตร ภายนอกของผลจะมีขนสั้น ๆ ขึ้นปกคลุมอยู่ ชนิดนี้ผลจะมีลักษณะเป็นรูปตูม ๆ ไม่บานอ้าเหมือนกับชนิดอื่น

ครอบฟันสี4เมล็ดครอบฟันสี เมล็ดมีลักษณะคล้ายรูปไต มีขนสั้น ๆ โดยในเมล็ดจะมีไขมันอยู่ประมาณ 5% โดยจะมี Oleic acid 41.3%, Linoleic acid 26.67%, Linolenic acid 6.8%, Palmitic acid 5.08%, Stearic acid 11.17% และ Non-saponified matter ประมาณ 1.77% (ซึ่งเป็นพวก Sitosterol) ส่วนกากเมล็ดจะประกอบไปด้วย Raffinose (C18 H32 O16)

สรรพคุณของครอบฟันสี

  1. รากใช้เป็นยาบำรุงกำลัง ช่วยแก้อาการร่างกายอ่อนแอไม่มีกำลัง ด้วยการใช้รากแห้งประมาณ 60 กรัม นำมาต้มกับขาหมู 2 ขา แล้วผสมกับเหล้าเหลืองประมาณ 60 กรัม ใช้ต้มกับน้ำรับประทาน ใช้เป็นยาบำรุงธาตุในร่างกาย ช่วยแก้อาการเหงือกอักเสบ ช่วยแก้อาการรากฟันเน่าและเป็นหนอง ด้วยการใช้รากแห้งประมาณ 15 กรัม นำมาผสมกับน้ำตาลแดงพอสมควร ใช้ต้มกับน้ำดื่ม หรือจะใช้รากแห้งนำมาแช่กับน้ำส้มสายชูประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วเอาผ้าห่อนำมาอมไว้ในปากบ่อย ๆ ใช้เป็นยาแก้คอตีบ ด้วยการใช้รากสดประมาณ 30 กรัม นำมาต้มกับน้ำดื่ม หรืออาจจะเพิ่มรากว่านหางช้างสด 20 กรัม และรากหญ้าพันงูสด 20 กรัม นำมาตำคั้นเอาแต่น้ำผสมกับเหล้าขาวรับประทาน เป็นยารักษาโรคไข้ผอมเหลือง ช่วยแก้โรคเกี่ยวกับหลอดลมและน้ำดี แก้โรคลมและดีพิการ แก้อาการปวดท้อง แก้บิด ใช้เป็นยาแก้มุตกิดสตรี หรืออาการปัสสาวะขุ่น เสียวในมดลูก มีอาการตกขาวและมีกลิ่นเหม็นคาว และมีอาการปวดบริเวณชายกระเบนเหน็บ ช่วยบำรุงไต รักษาโรคไต แก้อาการข้อมือและข้อเท้าอักเสบ หรือเป็นแผลอักเสบที่ทำให้กล้ามเนื้อลีบ ด้วยการใช้รากแห้งประมาณ 30 กรัม นำมาผสมกับน้ำและเหล้าอย่างละเท่ากัน แล้วใช้ตุ๋นรับประทาน
  2. ในอินโดจีนใช้ดอกอ่อนและเมล็ดเป็นยาบำรุง
  3. ใช้ทั้งต้นช่วยทำให้เจริญอาหาร ช่วยแก้โรคประสาท
  4. ทั้งต้นใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาบำรุงโลหิต ช่วยฟอกโลหิต ใช้เป็นยารักษาโรคความดันโลหิต ใช้เป็นยาแก้อาการหูอื้อหูหนวก ปวดหู ลมออกหู อาการคางทูม
  5. ขับโลหิตเสีย (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
  6. ช่วยบำรุงปอด (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
  7. ใบหรือทั้งต้นใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้โรคเบาหวาน ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หรือใช้ยอดสดยาว 1 คืบ จำนวน 15 ยอด นำมาต้มกับน้ำ 6 แก้วโอเลี้ยงจนเดือด ใช้ดื่มในขณะยังอุ่นจนหมด ติดต่อกันทุกวันประมาณ 2-3 อาทิตย์ บ้างก็ใช้ผลต้มกับน้ำดื่มครั้งละ 8-9 ผลต่อน้ำ 2 ลิตร หากน้ำตาลในเลือดลดลงแล้วให้ใช้เพียง 4-5 ผลต่อน้ำ 2 ลิตร ต้มดื่มต่างน้ำ จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ บ้างก็ว่าใช้ทั้ง 5 ส่วนของครอบฟันสีก็ใช้รักษาโรคเบาหวานได้ นอกจากน้ำตาลจะลดแล้วผู้ที่เป็นแผลเปื่อยจากเบาหวานก็หายด้วย และยังมีการทดลองเพื่อทดสอบฤทธิ์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือดของสารสกัดจากใบครอบฟันสี ด้วยการป้อนสารสกัดในขนาด 500 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักหนู 1 กิโลกรัม พบว่าสารสกัดดังกล่าวจะใช้เวลาดูดซึมประมาณ 2 ชั่วโมง จึงจะออกฤทธิ์ ใช้เป็นยาแก้โรคลมบ้าหมูหรือโรคลมชัก ด้วยการใช้ทั้งต้นรวมรากนำมาต้มกับน้ำปริมาณพอสมควรจนเดือด แล้วนำมาดื่มในขณะยังอุ่นทุกวัน วันละ 2-3 ครั้ง ช่วยแก้อาการเจ็บคอ ต่อมทอนซิลอักเสบ อาการไอ และหลอดลมอักเสบ เป็นยาช่วยแก้อาการร้อน ชื้น  ช่วยแก้เลือดร้อน ใช้เป็นยาแก้ไข้ ต้มกับน้ำดื่มช่วยขับลม ช่วยในการย่อยอาหาร แก้อาการท้องร่วง ทั้งต้นมีรสหวานเป็นยาสุขุม ออกฤทธิ์ต่อปอด กระเพาะอาหาร ลำไส้ และไต ใช้เป็นยาแก้หวัด ไอแห้ง ไข้ตัวร้อนไม่ยอมลด ช่วยกระจายลมร้อน ขับลมชื้น ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยแก้อาการปัสสาวะขัด เจ็บ ขุ่น ปัสสาวะกะปริบกะปรอย ปวดแสบเวลาขับปัสสาวะ หรือที่เรียกว่าโรคติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ช่วยแก้อุจจาระกะปริบกะปรอย ใช้รักษาแผลบวมเป็นหนอง ช่วยรักษาโรคเรื้อน ใช้เป็นยาแก้ฝีบวมแดง แก้อีสุกอีใส แก้อาการผดผื่นคันเนื่องจากอาการภูมิแพ้ ด้วยการใช้ทั้งต้นแห้งประมาณ 80 กรัม นำมาต้มกับเนื้อสันของหมูประมาณ 200 กรัม โดยต้มเป็นน้ำแกง ใช้รับประทานจนกว่าอาการจะหายเป็นปกติ แก้ปวดในกระดูก ด้วยการใช้ครอบฟันสีทั้ง 5 ส่วนนำมาต้มกินและนำมาใช้อาบ หรือจะนำมาประคบร่วมด้วยก็ได้
  1. ช่วยแก้อาการหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง ด้วยการใช้รากแห้งประมาณ 15-30 กรัม ข้าวเหนียวปริมาณ 1 ถ้วย (หรือจะใช้เนื้อหมูไร้มันหรือเต้าหู้แทนข้าวเหนียวก็ได้) ในปริมาณพอสมควร ใช้ต้มกับน้ำรับประทาน
  2. ใบใช้ขยี้นำมาอุดฟัน ช่วยแก้อาการปวดฟัน แก้อาการเหงือกอักเสบ ใช้ตำพอกบ่มหนองให้สุกไวและแตกเร็วขึ้น
  3. ช่วยแก้หืด (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
  4. เมล็ดแห้งช่วยขับเสมหะ ใช้เป็นยาระบายในคนที่เป็นริดสีดวงทวาร ใช้เป็นยาสมานแผล ช่วยกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ ผงจากเมล็ดใช้ฆ่าพยาธิเส้นด้าย
  5. ช่วยละลายเสมหะ (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
  6. ช่วยแก้อาการสะอึก (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
  7. ช่วยแก้อาการจุกเสียดแน่นเฟ้อ (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
  8. ดอกใช้เป็นยาฟอกลำไส้ให้สะอาด
  9. ช่วยแก้อาการบิดมูกเลือด บิดมูกขาว ด้วยการใช้เมล็ดนำมาคั่วให้เกรียมแล้วบดให้เป็นผง ใช้ครั้งละ 3-5 กรัม นำมาผสมกับน้ำผึ้งรับประทานก่อนอาหาร วันละ 3 ครั้ง
  10. ช่วยขับพยาธิในท้อง (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
  11. ช่วยขับระดูของสตรี (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
  12. ช่วยรักษาโรคต่อมลูกหมากอักเสบ ด้วยการใช้สมุนไพรครอบจักรวาล รางจืด ลูกใต้ใบ อย่างละเท่ากันนำมาต้มกิน (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
  13. ช่วยรักษาแผลเรื้อรัง ด้วยการใช้ครอบฟันสีทั้ง 5 ส่วนนำมาต้มกินและนำมาใช้อาบ หรือนำมาประคบร่วมด้วย ในอินเดียใช้ดอกและใบ นำมาพอกรักษาฝีและแผลเรื้อรังต่าง ๆ ส่วนฟิลิปปินส์ใช้ใบนำมาต้มเอาน้ำใช้ชะล้างรักษาบาดแผลและแผลเรื้อรังชนิดต่าง ๆ หรือจะใช้ใบผสมน้ำใช้ล้างก็ได้เช่นกัน นอกจากจะช่วยรักษาแผลเรื้อรังแล้ว ยังช่วยรักษาแผลพุพองและแผลเบาหวานได้อีกด้วย โดยจะช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น ทำให้คอลลาเจนมาเกาะที่แผลมากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดการเรียงตัวและการเติบโ
  14. ช่วยแก้ฝีฝักบัว ด้วยการใช้เมล็ด 1 ช่อนำมาบดให้เป็นผงแล้วนำมาชงกับน้ำสุกอุ่น ๆ ใช้รับประทาน และให้ใช้ใบสดนำมาตำผสมกับน้ำผึ้งหรือน้ำตาลแดงก็ได้ แล้วนำมาพอกที่แผล
  15. ช่วยแก้อัมพาต แก้ลมเข้าข้อ ต้านเชื้อแบคทีเรีย (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)

วิธีใช้และขนาดที่ใช้ : การใช้ตาม ทั้งต้นและราก ให้เก็บในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาว โดยตัดมาทั้งต้นแล้วล้างให้สะอาด นำมาตากให้แห้งแล้วเก็บไว้ใช้ ถ้าเป็นส่วนของราก ให้ใช้รากแห้งประมาณ 10-15 กรัม หากใช้ภายในให้นำมาต้มกับน้ำดื่ม แต่หากใช้ภายนอกให้นำรากมาตำแล้วพอกหรือต้มกับน้ำใช้ชะล้าง สำหรับในส่วนของทั้งต้น ให้ใช้ทั้งต้นแห้งประมาณ 30-60 กรัม หากใช้ภายในให้นำมาต้มกับน้ำดื่มหรือใช้ตุ๋นกับเนื้อไก่รับประทาน แต่ถ้านำมาใช้ภายนอกก็ให้นำมาตำแล้วพอก ทั้งนี้ก็ให้ดูลักษณะของอาการประกอบไปด้วย ส่วนการใช้ตาม ต้นสดและรากให้ใช้ครั้งละ 40-80 กรัม ต้นแห้งใช้ครั้งละ 20-30 กรัม ส่วนการนำมาใช้ภายนอกนิยมใช้ต้นสดนำมาตำพอก ส่วนเมล็ดแห้งนำมาบดให้เป็นผงใช้ครั้งละ 3-5 กรัมรับประทาน

ประโยชน์ของครอบฟันสี

          เปลือกต้นมีเส้นใยที่เหนียวและแข็งแรง สามารถนำมาใช้ทำเชือกได้ดี โดยทำใช้กันเอง ไม่มีการทำเป็นการค้า

         ในฟิลิปปินส์มีการใช้ใบต้มเอาน้ำนำมาใช้สวนล้างช่องคลอด

เอกสารอ้างอิง
  1. สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี.  "ครอบฟันสี".  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.rspg.or.th.  [20 ธ.ค. 2013].
  2. มูลนิธิหมอชาวบ้าน. นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่ 11 คอลัมน์: สมุนไพรน่ารู้.  "ฟันสี".  (ภก.ชัยโย ชัยชาญทิพยุทธ).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.doctor.or.th.  [20 ธ.ค. 2013].
  3. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ บันทึกของแผ่นดิน ๑: หญ้า ยา สมุนไพร ใกล้ตัว (สุภาภรณ์ ปิติพร).
  4. อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.  "มะก่องข้าว".  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.pharmacy.mahidol.ac.th/siri/.  [20 ธ.ค. 2013].
  5. สถาบันวิจัยวลัยรุกขเวช มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.  "มะก่องข้าว".  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.walai.msu.ac.th.  [20 ธ.ค. 2013].
  6. ไทยรัฐออนไลน์.  "ครอบฟันสี แก้โรคลมบ้าหมู".  (นายเกษตร).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.thairath.co.th.  [20 ธ.ค. 2013].
  7. จุฬาสัมพันธ์ ฉบับที่ 43 (วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2552).  "สารสกัดจากใบครอบฟันสีพัฒนาเป็นยาลดระดับน้ำตาลในเลือดผู้ป่วยเบาหวาน".  (รศ.สพญ.ดร.ศิรินทร หยิบโชคอนันต์ ภาควิชาเภสัชวิทยา คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.research.chula.ac.th.  [20 ธ.ค. 2013].
  8. จำรัส เซ็นนิล.  "สมุนไพรครอบจักรวาล".  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.jamrat.net.  [20 ธ.ค. 2013].
  9. "ใบความรู้เรื่องครอบฟันสี".  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: api.ning.com/files/M9hL--WJJPRB13WbJDEQZzube9lpVbp9G7APhYxlt6JvosH9Aqh2Rz-TfRW90uXgPNFHpSzMjrR3AZyuvtdsVSYgmtFClRnb/2.docx.  [20 ธ.ค. 2013].
  10. หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5.  “ครอบจักรวาฬ, ครอบตลับครอบฟันสี”.  (ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม).  หน้า 164-167.
  11. หนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีน ที่ใช้บ่อยในประเทศไทย.  “ครอบตลับ”.  (วิทยา บุญวรพัฒน์).  หน้า 152.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุ๊กกี้(Cookies Policy)

เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานให้ดียิ่งขึ้น และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านกด "ยอมรับ" หรือใช้งานเว็บไซต์ของเราต่อ ถือว่าท่านยินยอมให้มีการใช้งานคุกกี้ โดยท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและการตั้งค่าคุกกี้ (รวมถึงการปฏิเสธ และการลบ) ได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้